Like กันนะ

#PR กลุ่มทรู สนับสนุนนโยบายสานพลังประชารัฐ ผนึกภาครัฐ และพันธมิตรภาคเอกชน รวมพลังสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัล พร้อมเปิดโครงการ “ทรู ดิจิทัล พาร์ค”



กลุ่มทรู  สนับสนุนนโยบายสานพลังประชารัฐ ผนึกภาครัฐ และพันธมิตรภาคเอกชน รวมพลังสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัล  พร้อมเปิดโครงการ  “ทรู ดิจิทัล พาร์ค” มุ่งเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัล (Digital Hub) ของไทยชูระบบนิเวศน์สมบูรณ์แบบที่สุด และแนวคิด Open Innovation เสริมแกร่งสตาร์ทอัพรุ่นใหม่เพิ่มศักยภาพประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการพัฒนานวัตกรรมดิจิทัลระดับภูมิภาค

กลุ่มทรู สนับสนุนนโยบายสานพลังประชารัฐที่จะขับเคลื่อนประเทศสู่ Thailand 4.0  เดินหน้าพัฒนาโครงการ “ทรู ดิจิทัล พาร์ค” เพื่อเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัล (Digital Hub) ของไทยและแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ลงทุนโดยภาคเอกชน  เน้นจุดเด่นบรรยากาศ World-Class Co-Working Space ระบบนิเวศน์สมบูรณ์แบบครบวงจร  ผสานความร่วมมือจากหน่วยงานรัฐและองค์กรธุรกิจทุกภาคส่วน รวมทั้งบริษัทข้ามชาติระดับโลก ในรูปแบบ Open Innovation เพื่อหลอมรวมองค์ความรู้ที่เอื้อประโยชน์ต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัลของเหล่าสตาร์ทอัพไทย ที่สามารถเสริมสร้างประโยชน์และคุณค่าให้แก่สังคมในระดับประเทศและระดับโลก เพิ่มศักยภาพของประเทศในทุกด้าน เพื่อก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลระดับภูมิภาค โครงการ “ทรู ดิจิทัล พาร์ค” ตั้งอยู่บนพื้นที่ใจกลางเมือง ริมถนนสุขุมวิทติดรถไฟฟ้าในโครงการวิสซ์ดอม 101 (Whizdom 101)  ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จกลางปี พ.ศ. 2561

นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มทรู  ในฐานะเอกชนไทย มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการสนับสนุนนโยบายสานพลังประชารัฐของรัฐบาล และตอบสนองนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศด้วยนวัตกรรม เพื่อขับเคลื่อนประเทศสู่ Thailand 4.0  กลุ่มทรูจึงริเริ่มพัฒนาโครงการ “ทรู ดิจิทัล พาร์ค” เพื่อให้เป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัล (Digital Hub) ของไทย ที่จะรวบรวมคนเก่งผู้มีความรู้ความสามารถ (Talent) จากทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เกิดการหลอมรวมองค์ความรู้ที่เอื้อประโยชน์ต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัล และยังเป็นการดึงเงินลงทุน (Funding) จากทั่วโลกเข้ามาในเมืองไทย  ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของกลุ่มทรูที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างประเทศไทยให้ก้าวขึ้นเป็นประเทศศูนย์กลางด้านดิจิทัลของภูมิภาค  โดย “ทรู ดิจิทัล พาร์ค” มุ่งเน้นการสร้างระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสร้างสรรค์และวิจัยนวัตกรรมดิจิทัล ภายใต้แนวคิด Open Innovation โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคการศึกษา องค์กรเอกชนทั้งไทยและบริษัทข้ามชาติระดับโลก  ที่จะมาร่วมสร้างระบบนิเวศน์ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของสตาร์ทอัพไทยในการคิดค้นนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ประเทศไทย และทั่วโลกได้

ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นเป็นประเทศศูนย์กลางของอาเซียน  ด้วยความพร้อมในทุกด้านที่สามารถเปิดรับและดึงดูดนักธุรกิจและนักลงทุนต่างชาติเข้ามาในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นภูมิศาสตร์ของประเทศที่โดยธรรมชาติตั้งอยู่ศูนย์กลางของภูมิภาค  มีความอุดมสมบูรณ์  คนไทยมีวัฒนธรรมแบบเปิดและเป็นมิตร เอื้อให้คนต่างชาติเข้ามาใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย  มีโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารโทรคมนาคมล้ำสมัยครอบคลุมทั่วประเทศ  ดังนั้น การมีศูนย์กลางด้านดิจิทัลเกิดขึ้นในประเทศไทย ภายใต้ระบบนิเวศน์ครบวงจรที่เอื้อประโยชน์ต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรม และเป็น Open Innovation จะทำให้เกิดการผสมผสานความรู้ มีการวิจัยพัฒนา (Lab)  ต่อยอดในการสร้างสรรค์นวัตกรรม ช่วยส่งเสริมให้กลุ่มเทคสตาร์ทอัพไทยรุ่นใหม่ๆ สามารถสร้างธุรกิจได้เติบโตอย่างยั่งยืน

ทรู ดิจิทัล พาร์ค  ตั้งอยู่บนพื้นที่ใจกลางเมือง ริมถนนสุขุมวิท  ติดรถไฟฟ้า ในพื้นที่โครงการวิสซ์ดอม 101 ของ MQDC แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น  ซึ่งเป็นโครงการมิกซ์ยูสที่ผสมผสานพื้นที่สำหรับอยู่อาศัย ทำงาน และการพักผ่อนตลอดจนทำกิจกรรมทางสังคมเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวที่สุด  “ทรู ดิจิทัล พาร์ค” มีพื้นที่ 200,000 ตารางเมตร  เชื่อมโยงกันเป็นเมืองดิจิทัลด้วยเครือข่ายสื่อสารโทรคมนาคมสุดล้ำ 4G Plus, บรอดแบนด์ และ WiFi  แวดล้อมด้วยระบบนิเวศน์สมบูรณ์แบบ ทั้งบรรยากาศ World-Class  Co-Working Space ที่เปิดโล่ง บนพื้นที่สีเขียว ท่ามกลางธรรมชาติ (Green Area) และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่เอื้อประโยชน์ต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัล การดำเนินธุรกิจ และไลฟ์สไตล์ รวมทั้งพื้นที่แชร์ทำงานร่วมกัน (co-working space) ซึ่งจะเป็นศูนย์รวมหน่วยงานและองค์กรต่างๆ เข้ามาตั้งสำนักงาน และตั้งศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น บริษัทข้ามชาติรายใหญ่ของโลก (Multinational Tech Enterprise) เหล่าเทคสตาร์ทอัพรุ่นใหม่, กลุ่ม SME, มหาวิทยาลัย และ R&D  พร้อมมีแพลตฟอร์มบริการด้านดิจิทัล (Digital Service Platform) รองรับการทำธุรกิจทั้ง Cloud, e-Commerce และ e-Payment  อีกทั้งยังจะมีการสนับสนุนจากภาครัฐที่จะสร้างบรรยากาศและมอบสิทธิประโยชน์ที่เอื้อต่อการลงทุนของบริษัทต่างชาติในประเทศไทย และมีพื้นที่ให้คำปรึกษาทางธุรกิจและเครือข่ายระดมทุนแบบ Crowd Funding เทียบระดับสากล  ซึ่งนอกจากจะสร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดให้มีเงินลงทุนในระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยแล้ว ยังนำมาซึ่งการพัฒนาประเทศในด้านอื่นๆตามมาอีกมากมาย

โครงการ “ทรู ดิจิทัล พาร์ค”  เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของกลุ่มทรู ในฐานะภาคเอกชน ที่ตั้งใจสานต่อนโยบายรัฐบาลที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยีนวัตกรรมดิจิทัล  โดย “ทรู ดิจิทัล พาร์ค” จะเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลของไทย มีการถ่ายเทองค์ความรู้ด้านซอฟต์แวร์และคิดค้นนวัตกรรม ที่จะทำให้เกิดการต่อยอดพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่รู้จบ เสริมสร้างให้ประเทศไทยมีทรัพยากรบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ มีศักยภาพในการแข่งขัน และเป็นพื้นฐานของการเติบโตในระบบเศรษฐกิจดิจิทัลซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพของประเทศไทย ให้มีความพร้อมเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัล (Digital Hub) และก้าวขึ้นเป็นประเทศศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลระดับภูมิภาค” นายศุภชัย กล่าวสรุป

เกี่ยวกับ โครงการวิสซ์ดอม 101

วิสซ์ดอม 101 (วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน) คอมมูนิตี้ที่พัฒนาโครงการให้เป็นมากกว่าสิ่งปลูกสร้าง โดยการนำเสนอและส่งมอบไลฟ์สไตล์ให้กับคนรุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิด “The Great Good Place” ที่ซึ่งเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวที่สุด ระหว่างที่อยู่อาศัย ที่ทำงาน และที่พักผ่อนทำกิจกรรมทางสังคมต่างๆ เพื่อมุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดี เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ควบคู่กับการมุ่งพัฒนาสภาพแวดล้อมโดยรอบ โดยเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะเป็นหนึ่งในโครงการที่ใหญ่ที่สุดบนถนนสุขุมวิท ด้วยเนื้อที่ก่อสร้างทั้งหมด 43 ไร่ โครงการที่ซึ่งสำนักงาน ที่พักอาศัย ร้านค้าปลีก และสิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่ไลฟ์สไตล์ รวมไปถึงพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด จะอยู่บนโครงข่ายดิจิตอลแพลตฟอร์มเดียวกัน ทำให้ที่แห่งนี้มีลักษณะเป็นเมืองดิจิตอลที่เชื่อมประสานกันเป็นเครือข่ายแบบไร้รอยต่อ โดยพื้นที่ทั้งหมดจะสามารถเชื่อมต่อไวไฟ (WiFi)  ที่มีความเร็วสูงสุดได้ฟรี ทำให้ทุกคนในสังคมแห่งนี้มีอิสรภาพในโลกดิจิตอลแบบไร้ขีดจำกัด โครงการอยู่ติดกับสุขุมวิทยซอย 101 ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสปุณณวิถี โดยจะมีทางเชื่อมต่อแบบสกายวอล์ค สามารถเดินเท้าได้ภายในเวลาเพียง 5 นาที มีกำหนดแล้วเสร็จประมาณกลางปี 2561

Comments