17 เมืองแห่งสีสันที่คุณไม่ควรพลาด
คนที่ชอบถ่ายรูปแน่นอนว่าอยากถ่ายภาพในสถานที่ๆมีสีสันจัดจ้านเป็นแน่ ผมเลยจะพาไปชม 17 เมืองที่เต็มไปด้วยสีสันที่คุณไม่ควรพลาด
1. Burano in Venice, ItalyFlickr / O Palsson / Via Flickr: opalsson
Burano เป็นเกาะที่เป็นที่อยู่ของชาวประมง และที่วิเศษสุดเลยคือเป็นหมู่บ้านที่มีสีสันสดใสไม่ซ้ำกัน
2. La Boca in Buenos Aires, Argentina
Shutterstock / Peter Zaharov
เขต ลา โบกา เป็นย่านหนึ่งของกรุงบัวโนส ไอเรส เมืองหลวงของประเทศอาร์เจนตินา บ้านเมืองของที่นี้จะทาสีบ้านเหมือนสีลูกกวาดหลากสีผสมปนเปกันไป
3. Nyhavn in Copenhagen, Denmark
Flickr / Martin Nikolaj Christensen / Via Flickr: martin_nikolaj
ท่าเรือใหม่ ไนแฮน เป็นเขตแห่งความบันเทิงริมน้ำของ เมืองโคเปนเฮเก้น ประเทศเดนมาร์ค สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 อาคารร้านค้าที่สร้างด้วยไม้ อิฐ อันเก่าแก่ถูกระบายสีสันสดใส
4. Bo-Kaap in Capetown, South Africa
Shutterstock / littlewormy
ย่านโบแคพ (Bo-Kaap) คือย่านของชาวมุสลิมที่อยู่ในเคปทาวน์ เดินเหินแถวนี้จะเจอทั้งสุเหร่าและวัฒนธรรมการทักทายแบบชาวมุสลิม เหมือนไม่ได้อยู่ในแอฟริกา
5. Jelly Bean Row in St. John’s, Newfoundland, Canada
Flickr / Kenny Louie / Via Flickr: kwl
เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดใน นิวฟาวด์แลนด์ ประเทศแคนาดา อาคารหลัก ๆ ของเมือง เป็นส่วนที่หลงเหลือจากประวัติศาสตร์ของอาณานิคมอังกฤษ แล้วนำมาบูรณะใหม่หลากหลายรูปแบบ และหลากหลายสีสันอีกด้วย
6. Chefchaouen, Morocco
Shutterstock / Sabino Parente
เมืองเก่า Chefchaouen เป็นเมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ใน ตอนเหนือของ Morocco ที่ถูกทาสีทั้งเมืองให้เป็นสีฟ้า ที่มาของสีฟ้านี้เกิดจากชาวยิวอพยพเข้ามาในปี 1930 และได้ใช้สีฟ้าระบายบนผนัง เพื่อสื่อถึงท้องฟ้าและสวรรค์
7. Cinque Terre, Italy
Flickr / Brian Stacey / Via Flickr: blackrockphoto
Cinque Terre เมืองติดทะเลในเขต Liguria อิตาลี ชิงเกวแตร์เร ประกอบขึ้นจากหมู่บ้านประมงเล็กๆ ห้าหมู่บ้านซึ่งประกอบไปด้วย Monterosso al Mare, Vernazza, Corniglia, Manarola, และ Riomaggiore ทั้งหมดอยู่ใน Province La Spezia เป็นเมืองที่สวยงามจน UNESCO ยังยกให้เป็น World Heritage Site
8. Longyearbyen, Norway
Flickr / Lindsey Nicholson / Via Flickr: linznicholson
การแต่งแต้มสีเพียงเล็กน้อยให้กับบ้านเรือนที่มีฉากหลังเป็นภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะของลองเยียร์เบียนซึ่งตั้งอยู่บนเกาะในทะเลอาร์กติกที่เป็นน้ำแข็งสีขาวก็ช่วยให้เมืองดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันใด
9. Colmar, France
Shutterstock / Bildagentur Zoonar GmbH
เมือง Colmar ถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีความโรแมนติก เมืองหนึ่ง ของประเทศฝรั่งเศส เมืองมีบรรยากาศที่สวยงามและมีสถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ Colmar เป็นสถานที่โรแมนติกในฝัน
10. Rainbow Row in Charleston, South Carolina, United States
Flickr / David Shankbone / Via Flickr: shankbone
Rainbow Row บ้านหลากสีที่เรียงลายกันอย่างสวยงามนั้นมีที่มาจาก เจ้าของเดิมเป็นชาวอังกฤษที่อพยพมาจากหมู่เกาะในทะเลแคริบเบี้ยน เลยทาสีบ้านให้สดสันสดใสตามแบบบ้านในแถบโน้น
11. Willemstad, Curaçao
Flickr / John Curnow / Via Flickr: curns
วิลเลมสตัด เป็นเมืองหลวงของเกาะคูราเซา ดินแดนเนเธอร์แลนด์แอนทิลลีส เกาะทางตอนใต้ของทะเลแคริบเบียน ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมอาณานิคมสไตล์ชาวดัตช์ และบริเวณทางเข้าของท่าเรือที่รายล้อมไปด้วยร้านอาหาร ร้านค้าต่าง ๆ และสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืน นอกเหนือจากนี้ มันยังเป็นสวรรค์ของผู้ที่ชอบดำน้ำอีกด้วย
12. Santorini, Greece
Flickr / Edward Dalmuder / Via Flickr: edwarddalmulder
เกาะซานโตรินี่ ราชินีแห่งเมดิเตอร์เรเนี่ยน เป็นเกาะที่อยู่ทางใต้ของประเทศ Greece เกาะ Santorini (Thira) นั้นมีเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่หลายเมือง เช่น เมือง Fira ซึ่งเป็นเมืองหลวง, เมือง Oia อยู่ทางตอนบนของเกาะ เมือง Firostefani, Imerovigli เมือง Pyrgos อยู่บนเนินเขา เมืองติดชายหาด เช่น Kamari, Perissa เป็นต้น
13. Valparaiso, Chile
Shutterstock / Boris1908
Valparaíso, "หุบเขาสวรรค์" เป็นหนึ่งในเมืองท่าที่สำคัญที่สุดและศูนย์กลางวัฒนธรรมที่เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นเรื่อย ๆ ของประเทศชิลี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ ตัวเมืองตั้งอยู่บนภูเขาที่ล้อมรอบไปด้วยอ่าวอันงดงาม และเป็นหนึ่งในเมืองท่าเชิงพาณิชย์ที่สำคัญที่สุดในประเทศ ภายในเมืองประกอบไปด้วยอาคารบ้านเรือนที่เป็นเอกลักษณ์ และพรั่งพร้อมด้วยถนนเขาวงกต และที่น่าสนใจคือถนนในตัวเมืองมักถูกปูด้วยก้อนหินอย่างสวยงาม
14. Wroclaw, Poland
Flickr / Craig Wyzik / Via Flickr: wyzik
เมืองวรอตสวัฟ เป็นเมืองหลวงของจังหวัดโลว์เออร์ไซลีเชีย และยังเป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของประเทศโปแลนด์ เมืองนี้ถือว่าเป็นเมืองที่มีความหลากหลายและเต็มไปด้วยวัฒนธรรมของประวัติศาสตร์ นอกจากความน่าสนใจ
15. Jodhpur, India
Flickr / Nagarjun Kandukuru / Via Flickr: nagarjun
เมืองจ๊อดปูร์ (Jodhpur) นครสีฟ้าแห่งราชสถาน หรือเมืองที่คนไทยมักจะเรียกกันติดปากว่า “โยธะปุระ” มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในรัฐราชสถาน การทาบ้านด้วยสีฟ้าจะมีเฉพาะบ้านของชาวฮินดูวรรณะพราหมณ์เท่านั้น แต่ต่อมา มีความเชื่อว่า สีฟ้าจะช่วยกันแมลงและทำให้บ้านเย็นในฤดูร้อน ผู้คนจึงพากันทาบ้านตัวเองด้วยสีฟ้า จนกลายเป็นสัญญลักษณ์ของเมืองจ๊อดปูร์
16. Pelourinho in Salvador, Brazil
Flickr / Leandro Neumann Ciuffo / Via Flickr: leandrociuffo
แหล่งศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของเมือง Salvador ในรัฐ Bahia ซึ่งจะมีสถาปัตกรรมแบบ colonial ที่ผสมผสานระหว่างยุโรป แอฟริกา และแบบท้องถิ่นเข้าด้วยกัน ที่นี่เหมาะแก่การถ่ายรูปเป็นอย่างมาก ทั้งตึกรามบ้านช่องที่เปี่ยมสีสัน และวิถีคนเมืองที่มีชีวิตชีวา
17. Guanajuato, Mexico
Flickr / Justin Vidamo / Via Flickr: 21160499@N04
เมืองกวานาฮวาโต้ ตั้งอยู่ในหุบเขาแคบ ๆ ใจกลางประเทศเม็คซิโก โดยที่นี้ถูกค้นพบจากเหมืองแร่เก่าแห่งหนึ่ง ในภูเขาที่โอบล้อมเมืองนี้อยู่ สภาพของเมืองถูกตกแต่งด้วยสีที่ฉูดฉาดบาดตา ไม่ว่าจะเป็นตามอาคารบ้านเรือน สำนักงาน โบสถ์ พลาซ่า วิหารต่าง ๆ
ข้อมูลจาก Siamzone / Truelife.com / Pantip / กรุงเทพธุรกิจ / Chillpainai / Tamabea Blog / oceansmile.com
รูปจาก Buzzfeed.com
ช่วยเจ้าของเว็บโดยการกดไลค์หน่อยนะครับ ขอบคุณครับ
ผู้สนับสนุน
Casio Camera Exilim ZR1200 - White + Flash Air SD 8GB
ลดกันเลย 30% ราคาสุดคุ้ม สำหรับกล้องที่จะบันทึกทุกความทรงจำ ทุกรายละเอียด ทุกสีสัน ทุกอารมณ์ความรู้สึก ให้ไม่มีวันจางหายไป ให้คุณสามารถพกติดตัวไปได้ในทุกๆ ที่ .. อ่านต่อ
หรือดูกล้องอื่นๆราคาพิเศษได้ที่ ... คลิก
Comments
Post a Comment