พาไปญี่ปุ่นชมวัดน้ำใสแจ๋ว วัดคิโยมิซึเดระ (Kiyomizu-dera Temple)

ไม่ได้เขียนเรื่องญี่ปุ่นมาตั้งนาน ขอกลับมาเขียนหน่อยแล้วกัน ก็ขอต่อจากครั้งที่แล้วที่พาแวะศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ ไทฉะ วันนี้ผมจะมาเขียนต่ออีกวัดนึงครับ ชื่อวัดว่า "วัดคิโยมิซึเดระ" หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่า "วัดน้ำใส" อยากรู้มั้ยครับทำไมชื่อวัดน้ำใส อยากรู้ต้องอ่านต่อครับ

วัดคิโยมิซึเดระ ได้ถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี ค.ศ. 798 ในช่วงต้นยุคเฮอัน ตามหลักฐานเอกสารในประวัติศาสตร์ วัดน้ำใสได้ขึ้นทะเบียนเป็นวัดในปี ค.ศ. 805  สิ่งก่อสร้างต่างๆที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ ล้วนสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1633 ตามคำสั่งของ โตกุกาว่า เอมิซึ (Tokugawa Iemitsu) สิ่งที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่งของวัดนี้คือสิ่งก่อสร้างทั้งหมดนั้นสร้างโดยไม่ได้ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว ภายในบริเวณวัดนี้จะมีน้ำตกที่มีน้ำใสแจ๋ว วัดนี้เลยถูกเรียกว่าวัดน้ำใสนั่นเอง (แปลจากคำว่า "คิโยมิซึ")

ระหว่างทางเดินไปวัดจะมีร้านค้าไปตลอดทางเลยครับ … นั่นไง แวะแต่ต้นซอยเลยครับ

และก็มาได้ที่ร้านขายไอศครีม ขอบอกว่ารสชาติของไอศครีมที่ญี่ปุ่นมีหลากหลายมากครับ จำไม่ได้ว่าที่ถืออยู่รสอะไร แต่จำได้แค่ว่ามันดีงามมากครับ

สิ่งที่ผมชอบอีกอย่างของประเทศญี่ปุ่นคือ เขาภูมิใจในชุดประจำชาติเขามาก จนทำให้นักท่องเที่ยวก็ต้องไปหาเช่ามาใส่มาถ่ายรูปกัน (ประเทศไทยก็มีชุดที่สวยงามนะ น่าจะลองทำบ้าง)

ตอนเดินอยู่แถวต้นซอย ไม่เห็นคนจะเยอะเท่าไหร่ แต่พอเดินมาใกล้ๆตัววัด เริ่มเห็นฝูงชนอันหนาแน่น และร้านขายของที่ระลึกก็เยอะขึ้น สินค้าที่เด่นๆเลยก็จะมี ผักดอง เครื่องปั้นดินเผา แล้วก็ขนมของเมืองเกียวโต

เด็กนักเรียนก็มากันนะครับ (เอ..หรือว่าบ้านเขาอยู่แถวนี้หว่า)

ซุ้มประตูทางเข้าสีแดงสด

อันนี้คือ “เจดีย์ 3 ชั้น”

ถ้าเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะสวยกว่านี้อีกนะครับ (เห็นจากรูปชาวบ้านเขาน่ะ) หลังจากจุดชมวิวด้านบน เราก็จะค่อยๆเดินลงมาด้านล่างเขา

จนเมื่อมาถึงด้านล่าง เราก็จะเริ่มเห็นฝูงชนกันอีกครั้ง เขามาทำอะไรนะ

และนี่ก็คือน้ำที่ไหลมาจากยอดเขา ผ่านการกรองจากธรรมชาติซึ่งสามารถดื่มได้เลย โดยทางวัดจะจัดเตรียมอุปกรณ์ในการรองน้ำที่ตกลงมาตามรูปน่ะครับ ขอยืนยันว่าน้ำเขาใสจริงๆตามชื่อของวัดนี้เลยครับ และเย็นชื่นใจด้วย